คำแนะนำการฉีดวัคซีนโควิดสำหรับเด็ก

11 กุมภาพันธ์ 2565


ในวันที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565 อย. ได้รับรองขึ้นทะเบียนวัคซีนชนิดเชื้อตาย Sinovac และ Sinopharm ในเด็กอายุ 6 ปีขึ้นไปได้โดยไม่ต้องมีการปรับขนาดยา 

ทำให้มีวัคซีนที่สามารถใช้ในเด็กเพิ่มเติมจากวัคซีน mRNA Pfizer BioNTech   ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย ได้ทบทวนข้อมูลใหม่ด้านระบาดวิทยา ประสิทธิภาพ และความปลอดภัยของวัคซีนป้องกันโควิด-19ในเด็กและวัยรุ่น มีคำแนะนำใหม่เพิ่มจากคำแนะนำฉบับที่ 4 วันที่ 27 ธันวาคมพ.ศ. 2564 ดังนี้

  • แนะนำให้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ชนิด mRNA Pfizer BioNTech เป็นลำดับแรกในเด็กและวัยรุ่นอายุตั้งแต่ 5 ปีขึ้นไป โดยให้ฉีดเข้ากล้ามเนื้อ 2 เข็ม ห่างกัน 8 สัปดาห์เนื่องจากมีข้อมูลด้านความปลอดภัยและประสิทธิภาพในเด็กเพียงพอ

พิจารณาใช้วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ชนิดเชื้อตาย Sinovac หรือ Sinopharm เป็นวัคซีนทางเลือกสำหรับฉีดในเด็กอายุตั้งแต่หกปีขึ้นไป โดยแนะนำสูตรไขว้ (heterologous vaccination) ให้ฉีดSinovac หรือ Sinopharm เป็นเข็มที่1และฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ชนิด mRNA Pfizer

BioNTech ขนาดตามอายุเป็นเข็ม 2 เข้ากล้ามเนื้อห่างจากวัคซีนชนิดเชื้อตายอย่างน้อย 4 สัปดาห์

แนะนำให้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เข็มกระตุ้นในเด็กอายุ 12 ถึง <18 ปี ที่เคยได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ชนิด mRNA Pfizer BioNTech ครบ 2 เข็มแล้วอย่างน้อย 4-6 เดือน ด้วยวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ชนิด mRNA Pfizer BioNTech 1 เข็ม โดยแนะนำให้ฉีดเข็มกระตุ้นในเด็กกลุ่มเสี่ยงที่จะเกิดโรคโควิด-19 ชนิดรุนแรงเป็นลำดับแรก และให้วัคซีนเข็มกระตุ้นแก่เด็กปกติในลำดับถัดไป

เด็กที่เคยได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ชนิดเชื้อตาย Sinovac หรือ Sinopharm 2 เข็ม แนะนำให้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ชนิด mRNA Pfizer BioNTech อีก 1 เข็ม ห่างจากฉีดวัคซีนชนิดเชื้อตายอย่างน้อย 4 สัปดาห์

เด็กและวัยรุ่นที่เคยมีการติดโรคโควิด-19 ไม่ว่าจะแสดงอาการหรือไม่ก็ตาม หากไม่เคยได้รับวัคซีน แนะนำให้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ชนิด mRNA Pfizer BioNTech เมื่อครบ 3 เดือนนับจากที่เริ่มมีอาการเจ็บป่วยของโรคโควิด-19 หรือกรณีไม่แสดงอาการนับจากวันที่มีผลตรวจพบSARS-CoV2 ด้วย RT-PCR

หรือ ATK

การฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ในเด็กและวัยรุ่นในประชากรจำนวนมาก (mass immunization) ควรให้ฉีดเข้ากล้ามเนื้อ ยังไม่แนะนำการฉีดในชั้นผิวหนัง (Intradermal)

เด็กที่มีผลข้างเคียงรุนแรงภายหลังการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เช่น anaphylaxis shock,perimyocarditis เป็นต้นให้ระงับการฉีดวัคซีนต่อไว้ก่อนและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ

ในกรณีเด็กอายุน้อยกว่า 12 ปีได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ชนิด mRNA Pfizer BioNTech ฝาสีส้มแถบส้ม เป็นเข็ม แรก และต่อมามีอายุครบ 12 ปีก่อนการฉีดวัคซีนเข็ม 2 แนะนำให้ฉีดวัคซีนเข็ม 2 ด้วยวัคซีนฝาสีส้ม แถบส้ม ขนาด 10 ไมโครกรัม (0.2 มล.) อย่างไรก็ตามหากได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19

ชนิด mRNA Pfizer BioNTech ฝาสีม่วง แถบม่วง ขนาด 30 ไมโครกรัม (0.3 มล.) ก็ถือว่าได้รับวัคซีนครบ

ขอขอบคุณข้อมูลจากราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย อ่านเพิ่มเติม   คลิกที่นี่  

Update ข้อมูลเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2565


แพ็คเกจที่เกี่ยวข้อง

ดูทั้งหมด

ผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่า 1 ข้าง 225,000 บาท

ข้อมูลเพิ่มเติม

โปรแกรมตรวจสุขภาพสำหรับเดินทางต่างประเทศ

ข้อมูลเพิ่มเติม

โปรแกรมตรวจสุขภาพสำหรับท่องเที่ยวที่สูง

ข้อมูลเพิ่มเติม

IV DRIP ดริปวิตามิน

ข้อมูลเพิ่มเติม

โปรแกรมตรวจสุขภาพก่อนดำน้ำ

ข้อมูลเพิ่มเติม

วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ 4 สายพันธุ์

ข้อมูลเพิ่มเติม

วัคซีน Moderna สำหรับอายุ 12 ปีขึ้นไป

ข้อมูลเพิ่มเติม

ตรวจหาเชื้อและภูมิไวรัสตับอักเสบ เอ บี และซี

ข้อมูลเพิ่มเติม

โปรแกรมตรวจฮอร์โมนเพศหญิงภาวะประจำเดือนมาไม่ปกติ

ข้อมูลเพิ่มเติม

โปรแกรมตรวจสุขภาพ Happy Life Program

ข้อมูลเพิ่มเติม

โปรแกรมคลอดบุตร สมิติเวชชลบุรี

ข้อมูลเพิ่มเติม

โปรแกรมตรวจคัดกรอง "โรคมะเร็งตับ"

ข้อมูลเพิ่มเติม

โปรแกรมตรวจความสมบูรณ์ของทารกในครรภ์

ข้อมูลเพิ่มเติม

ประเมินความเสี่ยงโรคอัลไซเมอร์โดยนักกิจกรรมบำบัด

ข้อมูลเพิ่มเติม

ตรวจคุณภาพการนอนหลับที่บ้าน (Watch PAT)

ข้อมูลเพิ่มเติม

บทความที่เกี่ยวข้อง

ดูทั้งหมด

เมื่อลูกน้อย...เท้าบิดหมุนเข้าใน

เด็กที่เดินแล้วมีปลายเท้าชี้เข้าหากัน เกิดจากการบิดหมุนของขาตั้งแต่สะโพกลงมา มีลักษณะการเดินผิดปกติและปัญหาเรื่องความสวยงามของขาที่ผิดรูป การตัดรองเท้าอาจพิจารณาในรายที่เป็นมากจนเท้าสะดุดกันเองเวลาวิ่ง เด็กที่มีเท้าบิดหมุนเข้าใน เด็กที่เดินแล้วมีปลายเท้าชี้เข้าหากันเกิดจากการบิดหมุนของขาตั้งแต่สะโพกลงมา แบ่งเป็น 3 ส่วน คือ ต้นขา หน้าแข้ง และเท้า แต่ละส่วนมีแนวทางการตรวจติดตาม และรักษา แตกต่างกันเล็กน้อย การบิดหมุนของส่วนต้นขา พบมากที่สุด ส่วนใหญ่จะหายได้เอง ก่อนอายุ 10 ปี การดัดและการตัดรองเท้า ไม่ช่วยในการหาย พยายามเลี่ยงการนั่งในท่า W แต่ไม่จำเป็นต้องให้นั่งขัดสมาธิ ในเด็กที่ทำไม่ได้ อาจให้นั่งเหยียดขาแทนเวลานั่งพื้น การตัดรองเท้าอาจพิจารณาในรายที่เป็นมากจนเท้าสะดุดกันเองเวลาวิ่ง การผ่าตัดอาจไม่จำเป็นถ้าไม่มีปัญหาในการดำรงชีวิต และหากจะทำควรทำเมื่อเด็กโตมากแล้ว การบิดหมุนของหน้าแข้ง พบได้น้อยเมื่อเทียบกับบริเวณอื่น ส่วนใหญ่จะหายเองก่อนอายุ 4 ปี การรักษาเบื้องต้นเพียงติดตามอาการเท่านั้น การผ่าตัดอาจไม่จำเป็นถ้าไม่มีปัญหาในการดำรงชีวิต และหากจะทำควรทำเมื่อเด็กโตมากแล้ว การบิดหมุนที่เท้า พบได้ค่อนข้างบ่อย สังเกตได้จากเท้าจะโค้งคล้ายกล้วย ถ้าสามารถดัดได้ง่าย โอกาสหายเองสูง ถ้าดัดได้ยากอาจพิจารณาใส่เฝือกหรือตัดรองเท้าช่วย ส่วนใหญ่หายเองก่อน 4 ขวบ ในกรณีที่ยังเป็นจนโต อาจพิจารณาผ่าตัดในรายที่มีปัญหาการใส่รองเท้า และกังวลเรื่องความสวยงาม